|
|
ดู ข่าวที่น้องเคอิโงะ ซาโตะ เด็กชายวัยประถมฯ ที่เรียนหนังสืออยู่ที่พิจิตร ตามหาพ่อที่ชื่อคัทซูมิซึ่งเป็นชาวญี่ปุ่น วันก่อนโน้นน้องเคอิโงะเริงร่าขึ้นมา เมื่อคุณพ่อนั่งเครื่องบินจากญี่ปุ่น มาแลนดิ้งที่สุวรรณภูมิบ้านเรา ในแง่มุมหนึ่ง ออกจะชื่นชมสื่อมวลชนแทบจะทุกแขนงก็ว่าได้ ที่ติดตามทำข่าวน้องเคอิโงะ จนสามารถทำให้ความฝันของเด็กชายบ้านนอกตัวเล็กๆ ได้มีโอกาสเกิดขึ้นจริงก็ตามแต่พักหลังๆ ผมคิดไปว่ามันจะชักจะ "เกินไป" หน่อยไหม... แม้ สื่อมวลชนต้องการติดตามความคืบหน้าของเคอิโงะ แต่ภาพที่ออกมาไม่เหมาะสมด้วยการนำเสนอข่าวแบบเกาะติด ยิ่งกว่าเห็นเขาทั้งสองเหมือนดาราดัง ทั้งๆ ที่คนเป็นพ่อต้องการแสดงความเป็นส่วนตัว ตามประสาปุถุชนทั่วไป ผมเห็น สื่อมวลชนเกาะติดตั้งแต่ทั้งคู่นอนพักที่โรงแรม พาลูกไปเล่นน้ำที่สวนสยาม กลับมาเยี่ยมบ้านแม่ที่พิจิตร ไหว้กระดูกมารดา แม้กระทั่งเข้าไปทำธุระเรื่องการเลี้ยงดูที่อำเภอ ผมว่ามันคลับคล้ายคลับคลาว่า นี่มันหนังเรื่อง "เดอะทรูแมน โชว์" นี่หว่าเนี่ย จากที่เคยสงสาร ผมว่ากลับยิ่งสะอิดสะเอียน เหมือนน้องเค้าเป็นเทวดาชั้นใด หรือสามล้อถูกหวยงวดไหน? ผม ไม่ได้ว่าน้องเคอิโงะ ไม่ได้ว่าพ่อที่ขาดการติดต่อกับลูก เพราะเป็นเรื่องของครอบครัว หากแต่ว่าการนำเสนอเรื่องนี้ ในเมื่อพ่อลูกได้เจอกันที่สนามบิน มันน่าจะจบลงแค่นี้แล้วไม่ใช่หรือ ถือว่าสื่อพาน้องเค้าไปสู่ความฝันได้ยังนับว่าโอเคแล้ว ส่วนความ ช่วยเหลือใดๆ ไม่ว่าจะเป็นการให้ห้องพักฟรี ให้เสื้อผ้าฟรี ให้บัตรเที่ยวสวนน้ำ 10 ปี ก็น่าจะเป็นการให้โดยเสน่หา โดยที่ไม่จำเป็นต้องให้สื่อบอกกับคนซื้อหนังสือพิมพ์หรือคนดูข่าวในโทรทัศน์ ทุกเรื่อง เหมือนเป็นการโฆษณาแฝงไปในตัว อีกอย่างที่น่าตำหนิก็คือ การที่ผู้ใหญ่บางคนเอาผ้าขาวบริสุทธิ์ของน้องมาล้างน้ำแล้วย้อมสี ไม่ว่าจะเป็นการ์ตูนตีแผ่ชีวิต หรือแม้กระทั่งการออกเทป นี่ดีไม่ดีถ้าผู้ใหญ่ในพิจิตรบ้าจี้มากกว่านี้ คงเอาน้องเคอิโงะมาตั้งชื่อถนนแล้วขอยศร้อยตรีให้ฟรีๆ โอเค ถึงแม้ว่าจะเป็นการตีแผ่ชีวิตจริง แต่ผมไม่เชื่อหรอกว่าการที่เอาน้องเคอิโงะมาต่อยอดเช่นนี้ จะทำไปด้วยความบริสุทธิ์ใจโดยไม่มีผลประโยชน์แอบแฝงร้อยเปอร์เซ็นต์ และหากเป็นเช่นนี้ มันจะกลายเป็นการปลูกฝังค่านิยมในตัวน้องและเด็กคนอื่นๆ ให้เป็นคนที่จะเอาอะไรก็ได้ในอนาคต แค่โวยวายให้เป็นข่าว "หน้าหนึ่งไทยรัฐ-ข่าวสด" ก็ได้ตามต้องการแล้ว เพราะ ฉะนั้น ในเมื่อผมเห็นว่าเด็กยังอ่อนต่อโลกเกินไปที่ผู้ปกครองจะปล่อยวาง ขอให้น้องเคอิโงะเป็นเพียงความทรงจำน่ารักๆ ครั้งหนึ่งที่ได้ตามหาพ่อ เหมือนกับที่เราดูรายการทีวีอย่างเช่น ฝันที่เป็นจริงเมื่อสิบปีก่อน หรือรายการวันนี้ที่รอคอย มากกว่าที่จะเอาความเป็นข่าวมาเป็นจุดขายเพื่อหากินกับเด็กครับ ป.ล. หมีแพนด้าก็ไปแล้ว เคอิโงะก็ไปแล้ว น้องหม่องก็ไปแล้ว ต่อไปจะขายอะไรอีก... เอา "น้องแน็ต-เกศริน" มาจับล้างน้ำใหม่ดีไหม? | http://www.talkystory.com/site/article.php?id=8465 -- Weblink seminar http://ilaw.or.th www.patani-conference.net http://www.thaihof.org http://thainetizen.org http://www.ictforall.org http://elibrary.nfe.go.th http://www.thaisara.com http://www.rmutr.ac.th http://www.bedo.or.th/default.aspx http://weblogcamp2009.blogspot.com http://seminarmon.blogspot.com http://seminartue.blogspot.com http://seminarwed.blogspot.com http://seminarthu.blogspot.com http://seminarfri.blogspot.com http://seminarsat.blogspot.com http://seminar1951.blogspot.com http://seminardd.com www.ipthailand.org |
วันอังคารที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2552
อย่าให้ “เคอิโงะ” เป็นเพียงแค่สินค้าที่ขายได้
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น