ใครๆก็แก้กฎหมายได้(คุณก็ด้วย)
Bookmark and Share

วันเสาร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ธปท.อ้าแขนรับแบงก์นอก เปิด 3 สาขา-ขยายธุรกิจมากขึ้น

ธปท.อ้าแขนรับแบงก์นอก เปิด 3 สาขา-ขยายธุรกิจมากขึ้น
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 สิงหาคม 2552 08:01 น.
       แบงก์ ชาติสนับสนุนให้สาขาธนาคารต่างชาติเปิดสาขาเพิ่มได้เป็น 3 สาขา พร้อมแนะปรับเปลี่ยนเป็นบริษัทย่อยมากขึ้น หวังให้ต่างชาตินำเทคโนโลยีและความรู้ใหม่ๆ เข้ามาพัฒนาระบบการเงินไทย
       

       นายสรสิทธิ์ สุนทรเกศ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การใช้แผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (มาสเตอร์แพลน) ฉบับที่ 2 ในช่วงไตรมาสที่ 4 นี้ แนวทางหนึ่งที่จะผ่อนคลายให้สาขาธนาคารต่างชาติจากเดิมที่มีการเปิดสาขาได้ แค่เพียงสาขาเดียวจะเพิ่มเป็นเปิดสาขาได้เพิ่มอีก 2 แห่ง ทำให้สาขาธนาคารต่างชาติสามารถเปิดสาขาไทยได้ 3 สาขา ขณะที่ธนาคารต่างชาติที่จดทะเบียนในไทย ซึ่งมีบริษัทแม่ในต่างประเทศจะเปิดสาขาเพิ่มเติมได้เช่นกัน
       
       "แบงก์ชาติต้องการสนับสนุนให้สถาบันการเงินในต่างประเทศเข้ามามี บทบาทมากขึ้น เพื่อนำเทคโนโลยีใหม่ๆ และความรู้ด้านการเงินใหม่ๆ เข้ามาพัฒนาระบบการเงินไทย เราจึงจูงใจให้สถาบันการเงินต่างชาติเปลี่ยนจากสาขามาเป็นบริษัทย่อยมากขึ้น " ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท.กล่าว
       
       ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ไทยจะไม่อนุญาตให้เพิ่มจำนวนสถาบันการเงินในระบบ เพิ่มเติม แต่หันมาเน้นการควบรวมกิจการให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์ไทยมีการเติบโตที่แข็งแกร่งและมีเสาหลักในการทำธุรกิจ ที่มีความมั่นคง ธปท.จึงได้ส่งเสริมแนวทางนี้ และวิธีหนึ่งที่ ธปท.ได้เสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาอยู่ คือ การลดหย่อนภาษีในการโอนสินทรัพย์ระหว่างกัน เนื่องจากมองว่าภาษีถือเป็นต้นทุนที่สำคัญ หากมีการลดส่วนนี้ได้เชื่อว่าจะเป็นการจูงใจให้นักลงทุนชาติเข้ามามีบทบาทใน ไทยมากขึ้น
       
       ก่อนหน้านี้ นายบัณฑิต นิจถาวร รองผู้ว่าการสายเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธปท.กล่าวว่า แผนมาสเตอร์แพลน ฉบับที่ 2 นี้ ธปท.จะเปิดโอกาสให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาเป็นผู้เล่นรายใหม่ในระบบการเงิน ไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเข้ามาในรูปแบบธุรกิจเฉพาะที่ระบบเงินไทยยังขาดอยู่ ขณะที่สถาบันการเงินไทยจะขยายขอบเขตในการทำธุรกิจ รวมถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินหลากหลายมากขึ้น แต่จะเน้นหลักการบริหารความเสี่ยงที่ดี ดังนั้นหากสถาบันการเงินรายใดในระบบดำเนินธุรกิจได้ดี ธปท.พร้อมจะให้ความเป็นอิสระในการทำธุรกิจโดยไม่ต้องเข้าไปกำกับดูแลมาก เหมือนในปัจจุบัน
       
       ทั้งนี้ แผนมาสเตอร์แพลนดังกล่าวเป็นแผนพัฒนาระบบการเงินไทยในช่วง 5 ปีข้างหน้า คือ ในช่วงปี 2552-2556 มุ่งเน้น 3-4 เรื่องหลัก ได้แก่
1.ลดต้นทุนระบบสถาบันการเงินไทยต่ำลง เพื่อช่วยให้ผู้ใช้บริการได้รับต้นทุนต่ำ และสถาบันการเงินไทยสามารถแข่งขันกับธนาคารพาณิชย์ต่างชาติได้
2.สร้างประสิทธิภาพระบบการเงินไทยให้มากขึ้น โดยเฉพาะตัวชี้วัดด้านอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ให้สามารถปรับลดลงได้อีกและในระยะยาวคือ ไม่เกิน 5 ปีนี้ ควรอยู่ในระดับต่ำ
       
       "ในส่วนของการสร้างประสิทธิภาพระบบการเงินให้มีมากขึ้นธปท.ยังเน้น ให้มีการลดบทบาทของภาครัฐในการเข้าไปบริหารจัดการธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ซึ่งยอมรับว่าที่ผ่านมาการดำเนินการดังกล่าวภาครัฐไม่ประสบความสำเร็จ และไม่สะท้อนการทำงานของภาคเอกชนแท้จริง"นายบัณฑิตกล่าว
       
3.การเข้าถึงบริการทางการเงินมากขึ้น โดยเน้นให้ระบบสถาบันการเงินไทยมีบริการสถาบันการเงินระดับรากหญ้า(ไมโคร ไฟแนนซ์) อิสลามไฟแนนซ์ การปริวรรตเงินตรา และรับฝากหลักทรัพย์ เป็นต้น และ
4.การพัฒนาการบริหารความเสี่ยงธนาคารพาณิชย์ไทยดีกว่าในปัจจุบัน เพื่อไม่ให้สถาบันการเงินไทยเสียเปรียบการแข่งขันกับต่างชาติ จึงควรพัฒนาโดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานที่ต้องมีให้ครบมากกว่าในปัจจุบัน อาทิ การพัฒนาข้อมูลเครดิต ปรับปรุงกฎหมาย พัฒนาบุคลากร และพัฒนาตลาด โดยเฉพาะการประกันความเสี่ยง

 
http://www.manager.co.th/StockMarket/ViewNews.aspx?NewsID=9520000093489
คลังข้อมูลข่าวธุรกิจ
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)


--
ขอเชิญอ่าน blog.Thanks for visiting!  
http://www.parent-youth.net
http://ilaw.or.th
http://ww2.oja.go.th/home
http://www.thaihof.org
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://www.projectlib.in.th
http://elibrary.nfe.go.th
http://www.nstda.or.th/th
http://www.arda.or.th
http://www.nppdo.go.th
http://www.tlcthai.com
http://dbd-52.hi5.com
http://www.oknation.net/blog/assistance
http://weblogcamp2009.blogspot.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น