รายงานพิเศษ ตามดู “ต้นกล้าอาชีพ” ปลูกผักไร้ดิน ที่ มทร.สุวรรณภูมิ ---------------------------------- นักวิจัยสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ (มทร.สุวรรณภูมิ) คิดพัฒนาต้นแบบชุดปลูกผักไร้ดินระบบไฮโดรโปนิกส์ ใช้ต้นทุนเพียง 199 บาท 45 วันเก็บเกี่ยวได้ เผยแพร่สู่เกษตรกรและประชาชนทั่วไป กระแสตอบรับดีเยี่ยมเปิดอบรมต่อเนื่องแล้ว 2 รุ่น น.ส.รุจิรา สุริยา นักวิจัยฯ เผยว่าต้นแบบชุดปลูกผักไร้ดินนี้ ได้ทดลองปลูกผักสลัดต่างประเทศ พบว่าผักมีการเจริญเติบโตปกติในสารละลายอาหารที่ได้ผ่านการทดลองมาแล้ว นอกจากนี้ยังคิดค้นสูตรธาตุอาหารที่เหมาะกับพืชผักแต่ละชนิด เพื่อใช้ในการปลูกพืชไฮโดรโปนิกส์อีกด้วย “การปลูกผักโดยไม่ใช้ดิน เป็นเทคโนโลยีที่เคยมีมาก่อนแล้ว แต่กระแสรักษ์สุขภาพของคนไทยมีมากขึ้น ผักปลอดสารพิษ ผักกางมุ้ง และผักไฮโดรโปนิกส์ จึงเป็นทางเลือกของผู้บริโภค ที่กำลังได้รับความนิยมขึ้นเป็นลำดับ ซึ่งนอกจากจะปลอดภัยจากสารพิษตกค้างแล้ว สีสันยังดูน่ารับประทาน และรสชาติดีอีกด้วย” ที่สถาบันวิจัยและพัฒนา มทร.สุวรรณภูมิ นอกจากจะพัฒนาต้นแบบชุดปลูกผักไร้ดินระบบไฮโดรโปนิกส์ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถนำไปปลูกได้ง่ายที่บ้านแล้ว ยังจัดทำโครงการคลินิกเทคโนโลยี และจัดหน่วยสาธิตเคลื่อนที่ ร่วมกับทางจังหวัด ออกเผยแพร่ความรู้ด้านการปลูกพืชไม่ใช้ดินให้แก่เกษตรกรและผู้ที่สนใจ ที่สำคัญ ยังเป็นหลักสูตรหนึ่งของโครงการต้นกล้าอาชีพ อีกด้วย นักวิจัยฯ ยังกล่าวว่า การปลูกผักไร้ดินแบบนี้ จะช่วยได้มากเพราะแต่ละปีพื้นที่บางส่วนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะเกิดปัญหาน้ำท่วมเป็นเวลานาน ทำให้ไม่สามารถปลูกพืชตามวิธีการปกติได้ การปลูกผักไร้ดินก็สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวนี้ได้ และเหมาะกับผู้ที่มีพื้นที่เพาะปลูกน้อย เช่น หมู่บ้านจัด สรรอพาร์ทเม้นท์ หรือห้องเช่าต่างๆ ขณะที่เกษตรกรผู้ปฏิบัติ “ไสว เทศพันธ์” เผยว่า ผักที่นำมาปลูกด้วยระบบไฮโดรโปนิกส์ ส่วนใหญ่จะเป็นผักกวางตุ้ง และผักคะน้า เนื่องจากเป็นผักที่ใช้เวลา ในการปลูกสั้น ประมาณ 40-45 ก็เก็บเกี่ยวได้แล้ว สำหรับวิธีการปลูกก็ไม่ยุ่งยาก เริ่มจากนำฟองน้ำ สำหรับเพาะบรรจุใส่ถาดเพาะแล้วรดน้ำให้ชุ่ม จากนั้นใช้ไม้ปลายแหลมจุ่มน้ำ แล้วนำไปแตะกับเมล็ดพันธุ์ใส่ในฟองน้ำ 2-3 เมล็ด นำผ้ามาคลุมถาดเพาะไว้ รดน้ำทั้งเช้าและเย็นเป็นระยะเวลา 3 วัน เมล็ดก็จะงอก จากนั้นให้นำผ้าคลุมถาดเพาะออก และนำไปอนุบาลในโรงเรือนอนุบาลต้นกล้า ประมาณ 4 วัน ก็จะได้ต้นกล้าที่พร้อมปลูก หากไม่มีโรงเรือนให้นำมุ้งมากางแทนได้เช่นกัน ขั้นตอนต่อมา ให้นำต้นกล้าที่เตรียมไว้ย้ายลงแปลงปลูก (ควรย้ายต้นกล้าในตอนเย็น) โดยให้สอดต้นกล้าเข้าทางด้านหลังของแผ่นปลูกอย่างระมัดระวัง หลังปลูกหนึ่งวันให้เติมสารระลายธาตุอาหารตามชนิดของพืช ดูแลระบบน้ำตลอดอายุการเก็บเกี่ยว ก่อนเก็บเกี่ยว 4-5 วัน ควรงดเติมสารระลายธาตุอาหาร แต่ให้เติมน้ำเปล่าแทน เพื่อเป็นการลดความเข้มข้นของสารระลายธาตุอาหาร “ไสว” ยังบอกถึงข้อดีของการปลูกพืชแบบไฮโดรโปนิกส์ ว่า สามารถปลูกได้ทุกพื้นที่ และยังปลูกได้ในปริมาณมากในพื้นที่น้อย ใช้เวลาเก็บเกี่ยวสั้น โรคและแมลงน้อย ธาตุอาหารถูกนำไปใช้อย่างสูงสุด และสำคัญคือลดต้นทุนค่าจ่ายแรงงานคนไปได้มาก ...สำหรับเกษตรกรหรือผู้ที่สนใจ การปลูกผักไร้ดิน ระบบไฮโดรโปนิกส์ สามารถสอบถามได้ที่ สถาบันวิจัยและพัฒนา มทร.สุวรรณภูมิ ศูนย์หันตรา โทร.0-3532-3620, 0-3524-2554 ต่อ 6401 |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น