ใครๆก็แก้กฎหมายได้(คุณก็ด้วย)
Bookmark and Share

วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ประเพณีการทิ้งกระจาด

ประเพณีการทิ้งกระจาด

ข่าววันที่ 20 กรกฎาคม 2552 แหล่งข่าวจาก สยามรัฐ

ทันเกม

วีรพล จ้อยทองมูล

www.mongkhonphra.com

ทิ้งกระจาด

เรียนคุณวีรพล จ้อยทองมูล ที่เคารพ ดิฉันเป็นแฟนประจำสยามรัฐ อ่านทุกวันค่ะ ชอบหน้าพระเครื่องมาก อ่านแล้วได้ความรู้ดี ทุกวันนี้อ่านกันทั้งครอบครัว เขียนมาวันนี้สนใจอยากรู้เรื่องของประเพณีการทิ้งกระจาด มีความเป็นมาอย่างไร รบกวนคุณวีรพลช่วยแถลงไขให้ด้วย

ศิรินญา ชมอิ่ม ปากท่อ ราชบุรี

ตอบคุณศิรินญา .....ประเพณีการทิ้งกระจาด มีบันทึกในพระสูตร สมัยครั้งหนึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จประทับที่นิโครธาราม เมืองกบิลพัสดุ พร้อมด้วยพระภิกษุสดับพระสัทธรรมเทศนา

เวลานั้นพระอานนท์ เข้าไปนั่งสมาธิ อยู่ในที่สงัดแต่ผู้เดียว ครั้นเวลาดึกสงัด องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทัศนาอสูรกาย ร่างกายซูบผอมและมีเพลิงพลุ่งออกมาจากปาก ลำคอเท่ารูเข็ม ผมบนศีรษะรุงรัง มีเขี้ยวงอกออกจากปากน่าสพึงกลัวยิ่งนัก

อสูรกายยืนประนมมือบอกพระอานนท์ว่า ยังอีก 3 ราตรีท่านก็จะถึงแก่มรณภาพ แล้วต้องมาอยู่ในหมู่อสุรกายดังเช่นข้าพเจ้านี้

เมื่อพระอานนท์ได้ฟังอสุรกายบอกดังนั้น บังเกิดความหวาดเสียว กลัวต่อมรณภัย เพราะยังเป็นปุถุชนอยู่ ท่านจึงถามอสุรกายนั้นว่าจะทำประการใดจึงจะพ้นจากความตาย และพ้นทุกข์

อสุรกายตอบว่า ถ้าพระผู้เป็นเจ้าอยากให้พ้นกองทุกข์ ให้กระทำพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และบริจาคทานให้แก่ยาจกเข็ญใจที่อดอยากและแผ่กุศลไปให้แก่พวกอสุรกายทั้งหลาย ท่านก็จักได้มีอายุยืนยาวนาน  ส่วนอสุรกายก็จักได้พึ่งผลกุศลที่ท่านอุทิศให้ ก็อาจพ้นจากกองทุกข์ถึงสุคติได้

เมื่อพระอานนท์ได้ฟังอสุรกายกล่าวดังนั้น จึงได้นำความมากราบทูลองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตามคำที่อสุรกายกล่าวนั้น และขอให้ทรงช่วย

ท่านจึงมีพระพุทธฏีกาตรัสแก่พระอานนท์ ว่าดูก่อนอานนท์         อย่าได้มีความเกรงกลัวไปเลย เราตถาคตจะชี้ทางให้  เพื่อบริจาคทานให้แก่หมู่อสุรกายและพวกพราหมณ์

เมื่อพระอานนท์บริจาคทาน แล้วจักพ้นภัย ดังที่กล่าวแล้วนั้น แต่การที่จักบริจาคให้ทั่วถึงอสุรกายนั้นยาก เพราะพวกอสุรกายนั้นสร้างกรรมไว้มาก จึงไม่สามารถบริโภคได้ ต้องตั้งพิธีประชุมอริยเจ้าทั้งหลายมาเจริญพระคาถา ด้วยอำนาจพระคาถานี้ อาจให้ทั่วถึงหมู่อสุรกายทั้งหลายได้ ส่วนอานนท์ก็จักได้มีอายุยืน

 เมื่อพระอานนท์ได้สดับพระพุทธพจน์ดังนั้นแล้ว พระผู้เป็นเจ้าจึง จัดทำเครื่องสักการบูชาและเครื่องอุปโภคบริโภคพร้อมแล้ว พระผู้เป็นเจ้าก็ตั้งพิธีสันนิบาตพุทธจักร ณ ที่ควร จึงกระทำสักการบูชาพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสงฆ์เจ้า มีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประธานในการนี้ เมื่อพระอานนท์ผู้เป็นเจ้าบริจาคทานและอุทิศส่วนกุศลไปให้หมู่อสุรกายครั้งนั้น โดยได้พึ่งอำนาจพระบารมีอภินิหารแห่งพระรัตนตรัยทั้งสาม และอำนาจพระคาถานั้น จึงบันดาลให้ทั่วถึงหมู่อสุรกายทั้งหลาย ได้รับผลทานอันนี้แล้วไปสู่สุคติ

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงมีพระพุทธฏีกาตรัสแก่พระอานนท์ว่า ดูกรอานนท์ จงรู้เถิดเราตถาคตจะแสดงให้ทราบ เมื่ออดีตกาลล่วงแล้วครั้งนั้น เราตถาคตเกิดในตระกูลพราหมณ์ อยู่ในสำนักพระโพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์องค์นี้เมื่อผู้ใดบริจาคทานแก่หมู่อสุรกายใดๆ แล้ว พระองค์อ่านพระคาถา สวดขึ้นด้วยอำนาจพระคาถานั้นอาจให้ทั่วถึง หมู่สัตว์อสุรกายทั้งหลาย

 เราตถาคตจึงนำมาแสดงแก่อานนท์ในกาลบัดนี้ และอานนท์จึงรู้ซึ่งอสุรกายที่มาบอกแก่อานนท์ ว่ายังอีก 3 ราตรี อานนท์ก็จักถึงแก่มรณะนั้น หาใช้อื่นไกลไม่คือพระโพธิสัตว์ นั้นเอง พระโพธิสัตว์องค์นี้เธอปรารถนาจะโปรดทั้งมนุษย์และอบายสัตว์ทั่วๆไป ด้วยพรหมวิหารคือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ทั้ง 4 อย่างนี้บริบูรณ์อยู่ในเธอๆ จึงได้แบ่งภาคมาบอกแก่อานนท์ เพื่อจะได้เป็นต้นบริจาคทานต่อๆ ไป

เพราะเหตุนี้ การบริจาคทานทิ้งกระจาดจึงต้องมีรูปยมราช คือพระโพธิสัตว์แบ่งภาคเป็นประธานสำหรับแจกเครื่องไทยทานทิ้งกระจาดปฐมพิธีทิ้งกระจาดนั้นมีอาสนะตั้งเย็นชั้นสูงกลางต่ำตามสำดับดังนี้ คือการสงค์องค์ที่สถิตอยู่ชั้นสูงนั้น สมมติสนองพระโอษฐ์ว่าที่พระ คือองค์พระสักยมุนีโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเครื่อง องค์ที่สถิตอยู่ ณ ชั้นรองเยื้องขวานั้น สมมติสนองพระโอษฐ์ว่าที่พระ คือ พระวิปัสสีทรงเครื่อง

องค์ที่สถิตอยู่ชั้นรองเบื้องซ้ายนั้นสมมติสนองพระโอษฐ์ว่าที่พระ คือพระสีขีทรงเครื่อง องค์ที่สถิตอยู่ชั้นรองต่อลงไปเบื้องขวานั้น สมมติสนองพระโอษฐ์ว่าที่พระ คือพระเวสสภูทรงเครื่อง องค์ที่สถิตอยู่ชั้นรองต่อลงไปเบื้องซ้ายนั้นสมมติสนองพระโอษฐ์ว่าที่พระ พระกักกุสันธะทรงเครื่อง

องค์ที่สถิตอยู่ ณ ชั้นต่ำเบื้องซ้ายนั้น สมมติสนองพระโอษฐ์ว่าที่พระ พระพุทธกัสสทรงเครื่อง องค์ที่สถิตอยู่ ณ เบื้องต่ำ หันหน้าออกนั้น สมมติสนองพระโอษฐ์ว่าที่พระ คือพระมาลัยเถรเจ้าทรงเครื่อง หน่วงจิตต์ภาวนาพระนามตลอดการพิธีทิ้งกระจาด

องค์ที่สถิตอยู่เบื้องต่ำหันหน้าเข้านั้น สมมติสนองพระโอษฐ์ว่าที่ พระพุทธเจ้าเปิดโลกทรงเครื่อง หน่วงจิตต์ภาวนาพระนามตลอดการพิธีทิ้งกระจาด องค์สถิตอยู่ ณ ทิศตะวันออกนั้น สมมติสนองพระโอษฐ์ว่าที่พระทรงเครื่องหน่วงจิตต์ภาวนาพระนามตลอดการพิธีทิ้งกระจาด องค์สถิตอยู่ ณ ทิศตะวันตกนั้น สมมติสนองพระโอษฐ์ว่าที่พระทรงเครื่องหน่วงจิตต์ภาวนาพระนามตลอดการพิธีทิ้งกระจาด 

องค์สถิตอยู่ ณ ทิศเหนือนั้น สมมติสนองพระโอษฐ์ว่าที่พระทรงเครื่องหน่วงจิตต์ภาวนาพระนามตลอดการพิธีทิ้งกระจาด องค์สถิตอยู่ ณ ทิศใต้นั้น สมมติสนองพระโอษฐ์ว่าที่พระทรงเครื่องหน่วงจิตต์ภาวนาพระนามตลอดการพิธีทิ้งกระจาด ส่วนพระอันดับทั้งหลายนั้นสมมติสนองพระโอษฐ์ ว่าพระพุทธเจ้าทั้งหลายนั้น ต้องหันหน้าหน่วงจิตไปทางทิศตะวันตกขวามาแล้ว จึงหันกลับ ที่ประสานมือคลุมจีวรนั้นเป็นการแสดงว่าได้สำรวม อินทรีย์แล้วสวดสรรเสริญพระบารมีพระพุทธเจ้าทั้งหลาย          

และนี่จึงเป็นเหตุทำให้ก่อกำเนิดเกิดมีพิธีทิ้งกระจาดสืบทอดกันมาจวบจนปัจจุบัน

http://www.siamrath.co.th/uifont/NewsDetail.aspx?cid=73&nid=42444

--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
http://www.sanamluang.bloggang.com
http://tham-manamai.blogspot.com
http://lifeanddeath2mcu.blogspot.com
http://www.parent-youth.net
http://www.tzuchithailand.org
http://www.presscouncil.or.th
http://ilaw.or.th
www.patani-conference.net
http://www.thaihof.org
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://elibrary.nfe.go.th
http://dbd-52.hi5.com
http://www.thaisara.com
http://www.rmutr.ac.th
http://www.bedo.or.th/default.aspx
www.chula.ac.th/visitors/thai/calendar.htm

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น